ถาวรวัตถุที่เชื่อกันว่าสร้างมาในสมัยหลวงปู่ที่ยังพอมีให้เห็นก็คือ
มณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท วิหารประดิษฐาน พระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่
ศาลาข้างสระน้ำ
ซึ่งสิ่งก่อสร้างทั้งสามนี้มีสภาพเป็นซากที่ถูกทอดทิ้งใช้การไม่ได้แล้ว
ประวัติของหลวงพ่อเนียม
หลวงปู่เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2372
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
ท่านเป็นคนบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรีโดยกำเนิด
มารดาของท่านเป็นคนบ้านป่าพฤกษ์ ตำบลตะค่า อำเภอบางปลาม้า
ส่วนบิดาเป็นคนบ้านส้อง ตำบลมดแดง อำเภอศรีประจันต์
เล่ากันว่าหลวงปู่พำนักเล่าเรียนอยู่ที่เมืองบางกอกถึง 20 พรรษา
เมื่อร่ำเรียนจนจบกระบวนการแล้ว
ท่านก็กลับมาอยู่ที่วัดที่ท่านบวชชั่วระยะหนึ่ง
แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่วัดรอเจริญ อำเภอบางปลาม้า
(อยู่เยื้องลงมาทางใต้ของวัดน้อยไม่กี่ร้อยเมตร)
ท่านอยู่ที่วัดรอเจริญได้ไม่นาน
ชาวบ้านวัดน้อยเห็นแววของท่านก็มานิมนต์ท่านให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดน้อยที่ทรุดโทรมและกำลังจะร้าง
เพราะขาดสมภารเจ้าวัด
เมื่อท่านมาอยู่วัดน้อยตามศรัทธาของชาวบ้านแล้วก็ร่วมมือกับชาวบ้านสร้างหอฉัน
และบูรณะโบสถ์ วิหาร จนดี มีสภาพเป็นวัดขึ้นมาอีกครั้ง
วัดน้อยเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ
คุณมนัส โอภากุล (พ่อของคุณแอ๊ด
คาราบาว)
คนสุพรรณผู้เชี่ยวชาญและโด่งดังจากการรวบรวมค้นคว้าและเขียนเรื่องพระเกจิอาจารย์และพระเครื่องเมืองสุพรรณบุรีจนเป็นที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องได้เขียนว่า...
สุพรรณบุรีมีพระเกจิอาจารย์ดังมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศ
และพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทั้งคันถธุระและ วิปัสสนาธุระ
ผู้ทรงวิทยาคมที่ถือว่าเป็นที่สุดยอดของพระมหาเกจิ-เถราจารย์ของเมืองสุพรรณก็คือ......
หลวงปู่เนียม
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thaipra.com |