วัดบางขวาก

วัดบางขวาก
กับอดีตที่..ตลาดปากคลองบางขวาก
ล่วงทางบางขวากคุ้ง
เขดไพร
เหนแต่แร่รกไคล
เคลือบคล้ำ
ซ้ายขวาป่าสูงไสว
ว่างย่าน บ้านเอย
เด็กใคร่ไปปลายน้ำ
สนุกแท้แควเหนือ ฯ
นิราศเมืองสุพรรณที่แต่งขึ้นเมื่อเกือบ 200
ปีที่ผ่านมา โดยท่านสุนทรภู่กวีเอก
ที่กล่าวถึงชุมชนบางขวากในอดีต
ปัจจุบันชุมชนชาว ตลาดปากคลองบางขวาก
ชุมชนริมแม่น้ำท่าจีนที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของสุพรรณ
ตัวตลาดเก่าที่เคยมีการค้าขายคึกคักเมื่อหลายสิบปีก่อน
มาวันนี้...ตลาดปากคลองบางขวาก
คงเหลือไว้เพียงบ้านเรือนแถวเก่าๆ
ที่เงียบแต่ไม่เหงา
เพราะวิถีของชุมชนที่เคยชินกับวันเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ
ลมหายใจที่แผ่วเบา แต่อิ่มเอมไปด้วยความสุข
และความทรงจำกับอดีตที่ผ่านมา......

วัดบางขวาก
และตลาดปากคลองบางขวาก
ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว
แต่เป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำที่น่าสนใจ
สำหรับนักเดินทาง
ที่ชื่นชอบบรรยากาศของตลาดเก่าที่ไม่มีการปรุงแต่ง
อาจจะเป็นตลาดที่กำลังจะหมดลมหายใจ
แต่อดีตและวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวตลาดแห่งนี้
อาจจะทำให้ใครหลายคนค้นพบสิ่งที่ขาดหายไป
หรือสิ่งที่กำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้
มีโอกาสผ่านมา จากถนน สุพรรณ-ชัยนาท (340) เข้ามาเพียง 200เมตร
(ก่อนถึงสามชุกตลาดร้อยปีราว 5 ก.ม.)
แวะไปกราบไหว้หลวงพ่อดำ ชมพิพิธภัณฑ์ของโบราณ
ทำบุญให้อาหารปลาหน้าวัด
เดินชมบรรยากาศของตลาดเก่าและชุมชนริมแม่น้ำ
ที่บอกเล่าถึงอดีตนับร้อยปีที่ผ่านมา






สมัยเด็กๆ
กิมแชภาพยนต์เป็นร้านขายของโชวห่วย
และขนมสำหรับเด็กๆ
เป็นร้านแรกที่มีทีวีขาวดำมาให้เด็กๆในตลาดได้ดูกัน
พอตกเย็นเด็กก็จะไปรวมตัวกันนั่งกับพื้นเพื่อดูหนังการ์ตูนที่พวกเราชื่นชอบ
จำได้ว่าหนังญี่ปุ่นที่เด็กๆติดกันงอมแงม
เรื่องหุ่นอภินิหาร
มีนกหวีดที่เด็กใช้เป่าเรียกตัวหุ่นอภินิหาร
เป็นสินค้าที่ร้านเอามาขายประกอบกับการชมทีวี
เป็นการตลาดแบบชาวบ้านๆสมัยก่อน ...
ก็เป็นอีกความทรงจำเล็กๆกับอดีต

ประวัติวัดบางขวาก
ประวัติของวัดบางขวากมีดังนี้ ชื่อของวัดคือ
วัดบางขวาก มีที่มาเป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า
เดิมตำแหน่งที่ตั้งของวัดอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน
และมีคลองน้ำไหลมาลงแม่น้ำตรงใกล้วัด
ตรงนี้ชาวบ้านทั่วไปเรียกตรงนี้ว่าปากคลอง
ต่อมามีการย้ายหมู่กุฏิสงฆ์มาทางทิศใต้
ซึ่งเป็นที่อยู่ของวัดในปัจจุบันนี้
แต่เมื่อครั้งที่ย้ายมาใหม่ๆ นั้น
ที่ตรงนี้เป็นที่รกร้างเต็มไปด้วยพุ่มไม้ใหญ่น้อยทึบไปทั่ว
ในเวลานั้นที่ในชุมชนนี้มีพวกขโมยชุกชุมมาก
เมื่อพวกนี้เข้าบ้านไปขโมยของๆใครแล้ว
เจ้าหน้าที่และเจ้าของบ้านจะออกติดตามขโมยพวกนี้ทันที
พวกขโมยจึงได้นำไม้ไผ่มาหลาวปลายให้แหลมเป็นรูปใบหอก
แล้วปักไว้ตามเส้นทางที่หนี ที่เรียกว่า ขวาก
ทำให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง และเจ้าทรัพย์
ติดตามได้ลำบาก เพราะว่าในขณะที่วิ่งไล่ตามโจรนั้น
จะต้องระวังและกลัวว่า ขวากจะทิ่มขาเอาได้
และดงที่หัวขโมยปักขวากเอาไว้นั้น
ก็คือที่ตั้งของวัดและชุมชนตลาดบางขวากในปัจจุบันนี้นั่นเอง
จึงเป็นที่มาของชื่อวัดที่ชาวบ้านในสมัยโบราณเรียกกันตรงนั้นว่า
บ้านบางขวาก และวัดบางขวากตามลำดับ
วัดบางขวากนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมาแต่ครั้งสมัยใด
และใครเป็นผู้สร้าง มีนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานเอาว่า
คงจะสร้างมานานกว่า ๒๐๐ ปีแล้ว
โดยดูจากการลงประกาศให้เป็นวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๐
จากวันประกาศให้เป็นวัดจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลา ๒๐๐
ปีกว่าๆเข้าไปแล้ว
ถึงอย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้
ชาวบ้านย่านนี้บางคนก็ยังติดปากเรียกชื่อวัดนี้ว่า
วัดปากคลอง ก็มีมาก
ในปัจจุบันวัดบางขวากตั้งอยู่ที่ริม แม่น้ำท่าจีน
(แม่น้ำสุพรรณ) ใกล้ตลาดปากคลองบางขวาก เลขที่ ๑๓๓
หมู่ ๖ ตำบลย่านยาว อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี
วัดบางขวากมีเนื้อที่ทั้งหมด ๓๗ ไร่ ๒ งาน ๘๔ ตารางวา
มีถาวรวัตถุที่ได้สร้างขึ้นมาอย่างมากมาย
ที่สำคัญก็คือพระอุโบสถ ที่ได้สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕
โดยประชาชนได้ร่วมใจกันสร้าง
นอกจากนั้นก็ยังมีสิ่งก่อสร้างอีกมากมายจารนัยกันไม่หมด
สิ่งที่เป็นที่นับถือของคนทั่วไปคือ หลวงพ่อพระประธาน
(หลวงพ่อดำ)
ประดิษฐานอยู่ในมณฑปซึ่งสร้างอย่างสวยงามใกล้ๆพระอุโบสถ
หลวงพ่อดำองค์นี้ไม่มีหลักฐานว่าท่านมาจากไหนหรือใครเป็นผู้สร้าง
แต่ก็มีประชาชนทั่วไปมากราบไหว้อยู่เป็นประจำ
ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางขวากเลยทีเดียว
ที่มาข้อมูล:
http://www.bangkwag.com
การเดินทางโดยรถยนต์
เลยจากตัวเมืองสุพรรณไปทาง
จังหวัดชัยนาท ประมาณ 30 ก.ม.
ทางเข้าวัดจะอยู่ซ้ายมือก่อนถึง
สามชุกตลาดร้อยปี ประมาณ
5 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูล
โทร :
035 - 544028
เจ้าอาวาส โทร:
086 - 1330161
ค่าพิกัด GPS
https://goo.gl/maps/nnVhum3sE3iLxptJ9

|