พระอาจารย์ธรรมโชติ

พระอาจารย์ธรรมโชติ วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)
(วัดพระอาจารย์ธรรมโชติ) อำเภอเดิมบางนางบวช
  
บริเวณวัดตั้งอยู่บนเขานางบวช มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นวัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเรื่องราวราวเล่าขานที่น่าสนใจ
  
มีทั้งทางราดยางและบันได 249 ขั้น ขึ้นไปจนถึงยอดเขา เป็นวัดของพระอาจารย์ ธรรมโชติ ผู้ทรงคุณวุฒเครื่องรางของขลังสมัยศึกบางระจัน ชาวบ้านบางระจันได้นิมนต์ไปเป็นกำลังใจการสู้รบ กับพม่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่ในวิหาร พระอาจารย์ธรรมโชติ ด้านหลังเป็นเจดีย์แผ่นหิน รูปปั้นอาจารย์ธรรมโชติ 
ภายในศาลามีพระพุทธรูปสมัยรัชกาลที่ 5

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

ประวัติพระอาจารย์ธรรมโชติ
   พระอาจารย์ธรรมโชติ เดิมชื่อ โชติ ขณะบวชได้ฉายาทางพระว่า ธรรมโชติรังษี พื้นเพเป็นชาวเมืองสุพรรณ ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย บวชเรียนแล้วจำพรรษา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ณ วัดเขาขึ้นหรือเขานางบวช ท่านมีความรู้ด้านวิชากสิณ ด้านวิชาอาคมที่แก่กล้า ด้วยทั้งพรรษาและวิชาต่างๆที่ได้ศึกษาฝึกพร่ำร่ำเรียนมา ใครเห็นล้วนแต่เกิดศรัทธา
ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนาไปพำนักอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น จังหวัดสิงห์บุรี ด้วยเหตุที่พระอาจารย์ธรรมโชติมีวิทยาอาคมสูง และได้ลงวิทยาอาคมกับผ้าประเจียด ตะกรุดพิสมร แจกจ่ายให้กับนักรบค่ายบางระจัน  ***สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ในหนังสือไทยรบพม่าว่า พระอาจารย์ธรรมโชตินั้นได้หายสาบสูญไป หรือจะมรณภาพในเวลาเสียค่ายแก่พม่า หรือหนีรอดไปได้หาปรากฏไม่ แต่ตามความเชื่อและตำนานท้องถิ่นของชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อค่ายบางระจันมีทีท่าว่าจะแตก ลูกศิษย์ใกล้ชิดพระอาจารย์ธรรมโชติก็ได้นิมนต์ท่านหลบหนีออกจากค่าย สุดท้ายลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง (ซึ่งไม่มากนัก เพื่อไม่ให้เป็นการแลดูน่าสงสัยแก่ผู้พบเห็นทั่วไป) ได้พาท่านออกมาจากค่ายบางระจัน ชั่วครู่ก่อนค่ายจะแตก แล้วลี้ภัยข้าศึกอยู่ในป่าเขาลำนำไพรจวบจนสงครามสงบจึงกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเขานางบวช บ้างก็ว่าหลังจากออกจากค่ายบางระจันมา ท่านก็ไม่ไปหลบอยู่ที่ไหน แต่ขอกลับมาอยู่วัดเขานางบวช วัดเดิมที่ท่านเคยจำพรรษาอยู่ โดยลูกศิษย์ทำช่องลับไว้ให้ท่านหลบอยู่บริเวณวิหารของท่าน (ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่) ไว้ให้ท่านนั่งเจริญสมาธิกรรมฐาน บำเพ็ญกุศล บำเพ็ญเพียรโปรดแก่เหล่าสรรพสัตว์ วิญญาณวีรชน และชาวบ้านบางระจัน

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

บางข้อมูลอ้างว่า เมื่อครั้งค่ายบางระจันแตก ท่านได้ไปจำพรรษา ที่วัดนครจำปาศักดิ์อยู่สามปี เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กู้ชาติกลับคืนได้ ท่านได้เดินทางกลับมายังสำนักเขาขึ้น และได้รับสมณศักดิพัดยศเป็น พระครูธรรมโชติรังษี จากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระอาจารย์ธรรมโชติ มรณะภาพเมื่ออายุ 82 พรรษา หลายคนยังเชื่อว่าท่านหายสาบสูญไปกับค่ายบางระจัน ด้วยเหตุที่ท่านเก็บตัวไม่รับแขก จึงเป็นที่มาว่าท่านถูกข้าศึกฆ่าตาย

ประวัติ และที่มาของวัดเขานางบวช
   ราวปี 1826 มีหญิงชื่อชบา เป็นสนมแห่งพระร่วงเจ้า กรุงสุโขทัย เกิดเบื่อหน่าในเพศฆราวาส จึงออกบวชสละทางโลกเข้าจำพรรษารักษาศีลอยู่ในถ้ำบนยอดเขาแห่งนี้ คนทั้งหลายจึงเรียกเขาแห่งนี้ว่า "เขานางบวช" (ถ้ำอยู่ด้านหลังศาลา) ปัจจุบันปากถ้ำทรุดไม่สามารถเข้าไปได้ เล่ากันว่าภายในถ้ำมีข้าวของ เครื่องประดับจำนวนมาก สันนิฐานว่าเป็นของพวกที่ติดตามนางสนมชบา แต่ของเหล่านั้นได้สูญหายไปเมื่อปี พ.ศ.2402 และบางช่วงเวลา วัดแห่งนี้ได้เป็นวัดร้างในบางปีด้วยเครื่อประดับชิ้นสุดท้ายที่พบบริเวณปากถ้ำ เมื่อปี พ.ศ. 2539 เป็นกำไรหยกหัวพญานาค แต่ผู้พบมิได้ถวายเป็นสมบัติวัด

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

สถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดเขานางบวช

อุโบสถพระอาจารย์ธรรมโชติ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก รัชกาลที่ 5 มีรับสั่งให้บูรณปฏิสังขรณ์ เปลี่ยนหลังคาจากมุงแฝก เป็นมุงกระเบื้อง ภายในมีเสาขนาดใหญ่ ข้างละ 4 เสา ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย รวม 13 องค์ ล้วนแต่ถูกคนร้ายตัดเศียรไปหมดแล้ว ได้บูรณะสร้างเศียรขึ้นมาใหม่โบสถ์หลังนี้ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แปลกกว่าโบสถ์ทั่วไป คือมีประตู่เข้าออกเพียงประตูเดียว และไม่มีหน้าต่างเลยแม้แต่บานเดียว สมัยโบราณเรียกกันว่า “โบสถ์มหาอุตม์” ด้านหน้าพระอุโบสถเป็นเสมาธรรมจักร หินสีเขียวขนาดใหญ่ 5 แผ่น สูง 37 นิ้ว กว้าง 22 นิ้ว ไม่มีลวดลายใด ๆ ทั้งสิ้น ถัดจากเสมาธรรมจักรมีหินวางเป็นแนวสันนิษฐานว่าเป็นแนวกำแพง แต่เดิมนี้นภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อแก่นจันทร์ พระพุทธรูปไม้ที่สร้างขึ้นในสมัยพระอาจารย์ธรรมโชติ แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการสร้างมณฑปขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระอาจารย์ธรรมโชติ จึงได้ย้ายหลวงพ่อแก่นจันทร์เข้าไปประดิษฐาน ณ มณฑปใหม่ด้วย

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท มีหลุมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว เพื่อให้ประชาชนได้โยนเหรียญลงไปทำบุญ ในวิหารด้านหลังมีร่องรอยการเจาะผนังวิหารทะลุไปยังองค์เจดีย์ที่ก่อด้วยแผ่นหินบาง ๆ วางซ้อนเป็นรูปเจดีย์ขนาดไม่สูงมาก เจดีย์สร้างติดกับผนังวิหาร ก่อนที่ค่ายบางระจันแตก ชาวบ้านนิมนต์พระอาจารย์ธรรมโชติให้หนีไป แต่ท่านไม่หนีจนในที่สุด หัวหน้าชาวบ้านบางระจันบอกว่า มีอาจารย์คนเดียวเป็นพระ จะได้กลับมาทำศพพวกเรา ท่านถึงยอดออกจากหลังค่ายหนีไป หลังจากนั้น 3 วัน ค่ายบางระจันก็แตก พระอาจารย์ธรรมโชติ ก็นำคนมาช่วยเก็บศพทำบุญให้ หลายคนเข้าใจว่า ท่านใช้วิชากสิณชั้นสูง กลับไปวัดเขานางบวชแล้วหลบซ่อนอยู่ในอุโมงค์ใต้วิหาร เป็นอุโมงค์ที่กว้างพอจะเข้าไปอยู่ได้สัก 5 -6 คน เรื่องเหล่านี้อาจารย์ธรรมโชติท่านบันทึกไว้ทั้งหมด เพราะท่านเป็นพระที่รู้หนังสือ

ศาลาหลวงปู่ธรรมโชติ
เป็นทีประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางห้ามสมุทร (เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองแบตั้งขึ้น ยื่นออกไปข้างหน้าเสมอพระอุระ (อก) เป็นกริยาห้าม บางแบบเป็นพระทรงเครื่อง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น อายุประมาณ 600 – 700 ปี และรูปหล่อพระอาจารย์ธรรมโชติ ใกล้ ๆ กับศาลานั้นมีตนโพธิ์ที่ประทับของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อครั้งเสด็จประพาสต้น ณ วัดเขานางบวช เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2451

 

เสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า ร.ศ.127 พ.ศ. 2451

พระราชหัตถเลขา เรื่องเสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า กล่าวถึงวัดเขานางบวช

เมื่อวานนี้เรื่อครุฑจักรฟันไม้ลอยน้ำบิ่น จึงต้องยกย้ายขึ้นเปลี่ยนจักรใหม่ ยังไม่แล้ว อีกประการหนึ่ง ทางที่จะไปวันนี้ต้องเลี้ยวเข้าไปในทุ่ง ไปได้แต่เรือเล็ก จึงได้ลงเรือศรีเทพออกจากเดิมบาง ไปทางน้ำประมาณสักชั่วโมงหนึ่ง จนถึงนางบวชซึ่งมีตำบลบ้านและมีสะพานยาวเข้าไปจนถึงเขา แต่สะพานนั้นน้ำท่วม เรื่อเข้าไปจอดได้ถึงเชิงเขา ลักษณะเขาสมอคอน ในแม่น้ำตอนตั้งแต่เดิมบางลงมา ปรากฏว่าเป็นแม่น้ำใหม่ น่าจะเรียกว่าลำคลองมากกว่าแม่น้ำ เพราะไม่มีไม้ใหญ่ มีแต่ไผ่และแคบกว่าลำแม่น้ำตอนข้างบนมาก ลำแม่น้ำเดิมไปทางกำมะเชียน เมื่อถึงนางบวชแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าในคลอง หรือในทุ่งเข้าไปถึงเชิงเขา มีกุฏิพระมุงแฝกหลังใหญ่ 3 หลัง มีพระสงฆ์อยู่ถึง 7 รูป มีโรงพักสัปบุรุษและสระบัว ทางที่ขึ้นเขาเป็นสองทาง ตรงขึ้นไปเหมือนธรรมามูลทางหนึ่ง เลี้ยวอ้อมไปที่ไม่สู้ชันทางหนึ่ง เขาเป็นลักษณะเดียวกันกับเขาธรรมามูลหรือโพธิ์ลังกา ไม่ใคร่มีต้นไม้อื่นนอกจากไม้รวกเต็มไปทั้งเขา ฤดูแล้งแห้ง ใบร่วงเกิดเพลิงบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นหลังคาโบสถ์วิหารไม่ใคร่อยู่ได้ ที่ลานบนหลังเขา ยาวประมาณสัก 30 วา เกือบเท่ากับวัดราชประดิษฐ์ แต่แคบกว่า ดูเป็นลานกว้างขวางสบายดีกว่าธรรมามูล ที่บนนั้นมีพระอุโบสถหลังหนึ่ง 5 ห้อง ไม่มีหน้าต่างก่อเว้นช่องอย่างพุทไธศวรรย์ แต่หลังคาไม่มีมุงแฝกคลุมไว้ พระที่ตั้งอยู่บนฐานชุกชีเป็นพระพุทธรูปศิลาปั้นปูนประกอบปิดทอง ฐานทำลายรักปิดทองอย่างดีเต็มไปทั้งฐานชุกชี ผนังโบสถ์ด้านหนึ่งก่อเป็นแท่นเหมือนอาสนสงฆ์ ตั้งพระพุทธรูป เป็นพระยืนขนาดใหญ่ ๆ เห็นจะเป็นพระเท่าตัวฝืมือดี ๆ อย่างโบราณสวมเทริดหน้าต่าง ๆ แต่ชำรุดทั้งสิ้น ได้สั่งอัญเชิญลงมาจะปฏิสังขรณ์ 4 องค์ ถ้าแล้วเสร็จะส่งกลับขึ้นไปไว้ที่เขานั้นบ้าง เสมาใช้ศิลาแผ่นใหญ่ ๆ อย่างเสมาวัดหลวงกรุงเก่า มีกำแพงแก้วรอบไปจนกระทั่งพระเจดีย์และวิหารด้วย แต่วิหารนั้นเป็นที่น่าสงสัยอยู่ว่าจะทำเป็นสองคราว เพราะกระชั้นพระเจดีย์นักไม่ได้ไว้ช่องอีก มีช่องหน้าต่างเล็ก ๆ สูงสักศอกเดียว กว้างคืบเศษสองช่องเท่านั้น ท้ายวิหารจดฐานพระเจดีย์มีทางเข้าไปในองค์พระเจดีย์ ที่กำแพงแก้วมีพระเจดีย์ประจำมุม เห็นจะมีถึงด้านละ 8 องค์ พระเจดีย์นั้นก็แว่นฟ้า 3 ชั้นข้างบนตั้งรูปพระเจดีย์ปั้นดินเผาสีดำบ้างขาวบ้างเผาแข็งแกร่ง ได้นำลงมาเป็นตัวอย่างองค์ 1 มีศาลายาวก่ออิฐแต่ไม่มีหลังคา เห็นจะเป็นที่จำศีลภาวนาคงจะได้มุงกระเบื้องกระบูทั้งนั้น เหลือหลังคาอยู่แต่วิหาร ทางที่จะแลเขานางบวชนี้สู้เขาพระไม่ได้ เพราะเหตุที่มีต้นไม้บังอยู่เสียข้างหนึ่ง แต่การซึ่งขึ้นไปบนยอดเขาเหล่านี้ มีประโยชน์ที่จะได้เห็นภูมิพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร ข้อที่เราเห็นเมื่อเวลามาในแม่น้ำว่าเหมือนมาในดงไม้ใหญ่ แต่ที่จริงแล้วขึ้นไปที่สูงแล้วแลเห็นว่าไม่มีดงแห่งใด หลังหมู่ไม้เข้าไป ก็เป็นท้องนาทั่วไป มีท้องนากับป่าไผ่จนสุดสายตาทุกทิศ ไม่มีที่ว่างเปล่าในที่แห่งใดเลย ป่าไผ่นี้ก็เป็นลักษณะเดียวกันกับป่าสนของเมืองฝรั่ง ของเขาปลูกเหย้าเรือนด้วยไม้สน ของเราก็สำเร็จด้วยไม้ไผ่เป็นที่งามบริสุทธิ์ดีทุกแห่ง

เขานางบวชนี้เป็นที่ราษฎรนับถือมาก มีกำหนดขึ้นไหว้พระกันในกลางเดือน 4 มาแต่หัวเมืองอื่นก็มาก ใช้เดินทางบกทั้งนั้น ได้หยุดทำกับข้าวกินที่เชิงเขาแล้วจึงล่องเรือลงมาจนถึงปากกระเสียวจึงกลับเข้าลำน้ำเดิม

 

วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)
ตำบล นางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี 72120
โทร. 035-837590
 

 

ค่าพิกัด GPS 14.816490, 100.131588

แผนที่การเดินทาง

พระอาจารย์ธรรมโชติ

พระอาจารย์ธรรมโชติ วัดเขาขึ้น (วัดเขานางบวช)

 

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดสุพรรณบุรี

ร้านอาหาร ของกิน จังหวัดสุพรรณบุรี

รีสอร์ท โรงแรม ที่พัก จังหวัดสุพรรณบุรี

home suphanbiz

 

 

 

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดสุพรรณบุรี ร้านอาหาร ของกิน จังหวัดสุพรรณบุรี รีสอร์ท โรงแรม ที่พัก จังหวัดสุพรรณบุรี home suphanbiz

 

Last modified: 05/08/20

จังหวัดสุพรรณบุรี Suphanburi | สถานที่ท่องเที่ยว | ที่พัก-รีสอร์ท | ร้านอาหาร แผนที่ | การเดินทาง | Other